คำถาม
: เราสามารถเรียนรู้อะไรจากชีวิตของสเทเฟน
คำตอบ
: พระธรรมกิจการ 6:5 แนะนำชายผู้สัตย์ซื่อในพระเจ้าผู้มีชื่อว่าสเทเฟน “ผู้เต็มเปี่ยมด้วยความเชื่อและพระวิญญาณบริสุทธิ์” สิ่งที่น่าสนใจคือมักจะมีผู้เชื่อที่สัตย์ซื่อเหล่านั้นเสมอซึ่งความรักและความทุ่มเทต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาส่องประกายออกมาอย่างยิ่งใหญ่ จนคนอื่นๆ รอบตัวพวกเขาสังเกตเห็น และสเทเฟนก็เป็นคนเช่นนั้น ไม่มีใครรู้เรื่องราวส่วนตัวของสเทเฟน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อแม่ของเขา พี่น้องของเขา หรือแม้แต่ว่าเขามีภรรยาหรือลูกหรือไม่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเขานั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างแท้จริง เขาเป็นคนสัตย์ซื่อแม้ในขณะที่เผชิญหน้ากับความตายอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
สเทเฟนเป็นหนึ่งในเจ็ดคนที่ได้รับเลือกให้มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการแจกจ่ายอาหารให้แก่หญิงหม้ายในคริสตจักรยุคแรก หลังจากเกิดข้อพิพาทขึ้นและเหล่าอัครทูตตระหนักว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ เขายังคง “
พระธรรมกิจการบทที่ 7 เป็นบันทึกคำพยานชีวิตของสเทเฟนซึ่งอาจเป็นประวัติศาสตร์ที่ละเอียดและชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับอิสราเอลและความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระเจ้าในพระคัมภีร์ทั้งหมด สเทเฟนไม่ได้เพ่งความสนใจไปที่การมีชีวิตอยู่บนโลกของเขา แต่มุ่งมั่นในการยืนหยัดเคียงข้างพระเยซูคริสต์ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร พระเจ้าทรงดลใจเขาให้เขากล่าวอย่างกล้าหาญ คือการกล่าวหาอิสราเอลอย่างเหมาะสมต่อความล้มเหลวของพวกเขาในการตระหนักว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์ของพวกเขา และยังปฏิเสธรวมถึงฆ่าพระองค์เช่นเดียวกับที่พวกเขาฆ่าเศคาริยาห์และผู้เผยพระวจนะคนอื่นกับคนที่สัตย์ซื่อตลอดยุคสมัยของพวกเขา คำกล่าวของสเทเฟนเป็นการประณามอิสราเอลและความล้มเหลวของพวกเขาเนื่องจากว่าเป็นผู้ที่ได้รับเลือกไว้ของพระเจ้าคือผู้ที่ได้รับบัญญัติ สิ่งบริสุทธิ์ และคำสัญญาเรื่องพระเมสสิยาห์ แน่นอนว่าคำกล่าวหานี้ถึงแม้จะเป็นความจริงแต่ชาวยิวก็ไม่ยอมรับ
ในการกล่าวคำปราศรัยของเขา สเทเฟนย้ำเตือนพวกเขาเกี่ยวกับบรรพบุรุษซึ่งสัตย์ซื่ออย่างอับราฮัมและวิธีการที่พระเจ้านำพาเขาออกจากดินแดนนอกศาสนาเข้าสู่ดินแดนของอิสราเอล สถานที่ซึ่งพระเจ้าทำพันธสัญญากับเขา เขากล่าวเกี่ยวกับการเดินทางของประชาชนของเขา ตั้งแต่การอาศัยอยู่ชั่วคราวของโจเซฟในอียิปต์สู่การปลดปล่อยพวกเขาโดยโมเสสในอีก 400 ปีต่อมา เขาเล่าถึงวิธีที่โมเสสพบพระเจ้าในถิ่นทุรกันดารของมีเดียนในพุ่มไม้ไฟ และเขาอธิบายวิธีการที่พระเจ้าประทานอำนาจให้โมเสสเพื่อนำคนของพระองค์ออกจากการนับถือรูปเคารพและจากการเป็นทาสมาสู่อิสรภาพ รวมถึงเวลาของความชื่นบานในดินแดนแห่งพันธสัญญา ผ่านคำกล่าวของเขา เขากล่าวย้ำเตือนคนพวกนั้นเกี่ยวกับการกบฏและนับถือรูปเคารพที่ไม่สิ้นสุดของพวกเขาถึงแม้พวกเขาจะได้เห็นงานอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าด้วยตาของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวหาพวกเขาด้วยประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง ซึ่งทำให้พวกเขาโกรธเคืองจนพวกเขาไม่ต้องการที่จะได้ยินอีกต่อไป
บัญญัติของโมเสสกล่าวว่าบาปของการดูหมิ่นพระเจ้าจะได้รับผลแห่งความตาย ซึ่งมักถูกลงโทษด้วยการเอาหินขว้าง (เฉลยธรรมบัญญัติ 15:30-36) ก่อนที่ชาวยิวเหล่านี้ซึ่งเป็นผู้หยิ่งผยองและเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการไถ่โทษเริ่มลงโทษตามที่กฎหมายกำหนดและเริ่มขว้างหินใส่สเทเฟนนั้น ในกิจการ 7:55-56 บันทึกถึงช่วงเวลาสุดท้ายสำหรับชีวิตบนโลกของเขาก่อนที่เขาจะก้าวผ่านม่านแบ่งระหว่างสวรรค์กับโลกคือ “
ถ้อยคำในพระธรรมโคโลสี 3:2-3 เหมือนจะได้รับการเขียนเพื่อบรรยายถึงชีวิตของสเทเฟน แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถนำไปปรับใช้ได้กับผู้เชื่อทุกคนคือ “
English
: เราสามารถเรียนรู้อะไรจากชีวิตของสเทเฟน