คำถาม
ทูตสวรรค์เป็นชายหรือหญิง?
คำตอบ
ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า การอ้างอิงถึงทูตสวรรค์ในพระคัมภีร์ทุกครั้ง จะหมายถึงเป็นเพศชาย
ภาษากรีกคำว่า " ทูตสวรรค์ " ในพันธสัญญาใหม่ แองเจิลอส อยู่ในรูปแบบของเพศชาย
ในความเป็นจริง แองเจิลอส ไม่อยู่รูปแบบของเพศหญิง มีสามเพศในไวยากรณ์- เพศชาย (เขา, แก่เขา ของเขา) เพศหญิง (เธอ ของเธอ แก่เธอ ) และไม่มีเพศ (มัน ของมัน) ทูตสวรรค์ไม่เคยถูกกล่าวในรูปของเพศใดนอกจากเพศชาย ลักษณะของทูตสวรรค์มากมายในพระคัมภีร์ ไม่เคยเป็นที่เรียกกันว่า "เธอ" หรือ "มัน" ยิ่งกว่านั้น เมื่อทูตสวรรค์ปรากฏ พวกเขามักจะปรากฏแต่งกายเป็นผู้ชาย
ปฐมกาล 18:2-3, 16 “ท่านเงยหน้าขึ้นมองดู เห็นชายสามคนยืนอยู่ข้างหน้าท่าน เมื่อท่านเห็นเขาทั้งสามท่านก็วิ่งจากประตูเต็นท์ ไปต้อนรับเขากราบลงถึงดิน พูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่าน ขออย่าผ่านผู้รับใช้ของท่านไปเสียเลย แล้วบุรุษเหล่านั้นก็ออกจากที่นั่น เดินไปจนเห็นเมืองโสโดม และอับราฮัมก็ตามไปส่งด้วย
เอเสเคียล 9:2-4 “และดูเถิด มีชายหกคนเข้ามาจากทางประตูบน ซึ่งหันหน้าไปทางเหนือ ทุกคนถือเครื่องมือสำหรับฆ่ามา มีชายคนหนึ่งนุ่งห่มผ้าป่านหนีบหีบเครื่องเขียนมา กับคนเหล่านั้นด้วย และเขาทั้งหลายเข้าไปยืนอยู่ที่ข้างแท่นทองสัมฤทธิ์ พระสิริของพระเจ้าของอิสราเอลได้เหาะขึ้นไป จากเครูบ แล้วซึ่งเป็นที่เคยสถิต ไปยังธรณีประตูพระนิเวศ และพระองค์ตรัสเรียกชายผู้ที่นุ่งห่มผ้าป่าน ผู้ที่หนีบหีบเครื่องเขียน และพระเจ้าตรัสสั่งเขาว่า “จงไปตลอดนครคือตลอดเยรูซาเล็ม และทำเครื่องหมายไว้ที่หน้าผากของ ประชาชนที่ถอนหายใจและคร่ำครวญ เพราะความลามกทั้งสิ้นที่กระทำกันในเมือง”
ในพระคัมภีร์ไม่เคยปรากฏทูตสวรรค์แต่งกายเป็นผู้หญิง เฉพาะชื่อของทูตสวรรค์ในพระคัมภีร์ มิคาเอล กาเบรียล , ลูซิเฟอร์ – เป็นชื่อเพศชายและทั้งหมดถูกกล่าวถึงในแบบเพศชาย
วิวรณ์12:7 “ขณะนั้นเกิดสงครามขึ้นในสวรรค์ มีคาเอล กับเทพบริวารของท่านได้ต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับบริวารของมันก็ต่อสู้”
Luke ลูกา 1:26-31 “เมื่อถึงเดือนที่หก พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์กาเบรียลนั้น ให้มายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลี ชื่อนาซาเร็ธ มาถึงหญิงพรหมจารีคนหนึ่ง ที่ได้หมั้นกันไว้กับชายคนหนึ่งที่ชื่อโยเซฟ เป็นคนในเชื้อวงศ์ดาวิด หญิงพรหมจารีนั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าบ้านมาถึงหญิงพรหมจารีนั้น แล้วว่า “เธอผู้ซึ่งพระเจ้าทรงโปรดปรานมาก จงจำเริญเถิด พระเป็นเจ้าทรงสถิตอยู่กับเธอ”
ฝ่ายมารีย์ก็ตกใจเพราะคำของทูตนั้น และรำพึงว่า คำทักทายนั้นจะหมายว่าอะไร แล้วทูตสวรรค์จึงกล่าวแก่เธอว่า “มารีย์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะเธอเป็นที่พระเจ้าทรงโปรดปรานแล้ว
ดูเถิด เธอจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู”
Isaiah อิสยาห์ 14:12,16 “โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ
บรรดาผู้ที่เห็นเจ้าจะเพ่งดูเจ้า และจะพิจารณาเจ้าว่า 'ชายคนนี้หรือที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน
ผู้เขย่าราชอาณาจักรทั้งหลาย” ในการอ้างอิงอื่นๆ ทูตสวรรค์อยู่ในรูปเพศชายเสมอ
ผู้วินิจฉัย 6:21” แล้วทูตของพระเจ้าก็เอาปลายไม้ที่ถืออยู่แตะต้อง เนื้อและขนมไร้เชื้อ และมีไฟลุกขึ้นมาจากศิลาไหม้เนื้อและขนมไร้เชื้อจนหมด และทูตของพระเจ้าก็หายไปพ้นสายตาของเขา”
ทูตสวรรค์มีสมุนทำงานอยู่ในอำนาจของเขา เศคาริยาห์ 1:19 “ข้าพเจ้าจึงถามทูตสวรรค์ที่สนทนาอยู่กับข้าพเจ้าว่า “เหล่านี้คืออะไร” ท่านจึงตอบข้าพเจ้าว่า “เหล่านี้คือสิงค์ที่ขวิดยูดาห์ อิสราเอลและเยรูซาเล็ม ให้กระจัดกระจายไป” เศคาริยาได้ตั้งคำถามทูตสวรรค์และบอกเราว่าเขาได้ตอบกลับ ทูตสวรรค์ในวิวรณ์ที่กล่าวถึงทั้งหมด เป็น "เขา" และ "ของเขา" วิวรณ์ 7:1-2 “ต่อจากนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์สี่องค์ยืนอยู่ที่มุมทั้งสี่ของแผ่นดินโลก ห้ามลมในแผ่นดินโลกทั้งสี่ทิศไว้ เพื่อไม่ให้ลมพัดบนบก ในทะเลหรือที่ต้นไม้ใดๆ
แล้วข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งปรากฏขึ้นมาจากทิศตะวันออก ถือดวงตราของพระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ และท่านได้ร้องประกาศด้วยเสียงอันดังแก่ทูตทั้งสี่ ผู้ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้ทำอันตรายแก่แผ่นดินและทะเลนั้น” วิวรณ์ 10:1, 5 “ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์มากอีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ มีเมฆล้อมรอบตัวท่านและมีรุ้งเหนือศีรษะท่าน และหน้าท่านเหมือนดวงอาทิตย์ และขาท่านเหมือนเสาไฟ ฝ่ายทูตสวรรค์องค์ที่ข้าพเจ้าเห็นยืนอยู่ทั้งบนทะเลและบนบกนั้น ได้ชูมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า” วิวรณ์ 14:19 “ทูตสวรรค์นั้นก็ตวัดเคียวบนแผ่นดินโลก และเก็บเกี่ยวผลองุ่นแห่งแผ่นดินโลก และเทลงไปในบ่อย่ำองุ่นอันใหญ่แห่งพระพิโรธของพระเจ้า”
วิวรณ์ 16:2-4,8, 10,12, 17 “ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไป และเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก และคนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของมันก็เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว ทูตสวรรค์องค์ที่สองก็เทขันของตนลงในทะเล และทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงที่แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ และให้ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนที่นั่งของสัตว์ร้ายนั้น และอาณาจักรของมันก็มืดไป คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทม
ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงที่แม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีสทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้ง เพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดากษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดได้เทขันของตนลงในอากาศ และมีพระสุรเสียงดังออกมาจากพระที่นั่งในพระวิหารนั้นว่า สำเร็จแล้ว”
วิวรณ์ 19:17 “แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่บนดวงอาทิตย์ ท่านร้องประกาศแก่นกทั้งปวงที่บินอยู่ในท้องฟ้า ด้วยเสียงอันดังว่า “จงมาประชุมกันในการเลี้ยงใหญ่ของพระเจ้า”
วิวรณ์ 20:1 “แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านถือลูกกุญแจของบาดาลนั้น และถือโซ่ใหญ่” มัทธิว 22:30 “เมื่อมนุษย์ฟื้นขึ้นมาจากความตายนั้น จะไม่มีการสมรสหรือยกให้เป็นสามีภรรยากันอีก แต่จะเป็นเหมือนทูตในฟ้าสวรรค์”
ความสับสนเกี่ยวกับการที่ทูตสวรรค์ไม่มีเพศมาจากการอ่านข้อพระคัมภีร์นี้ผิด ที่กล่าวว่าจะไม่มี การแต่งงานในสวรรค์ เพราะเรา "จะเป็นเหมือนทูตสวรรค์ในสวรรค์. " การกล่าวว่าจะไม่มีการแต่งงานได้ทำให้บางคนเชื่อว่าทูตสวรรค์ " ไร้เพศ " หรือไม่มีเพศเพราะ ( คิดไปเอง ) วัตถุประสงค์ ของเพศ คือการให้กำเนิด และถ้าจะไม่มีการแต่งงานและไม่มีการให้กำเนิด ก็ไม่มีความจำเป็นเรื่องเพศ แต่นี้เป็นการข้ามไปที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง จากตำรา ความจริงที่ว่าไม่มี การแต่งงานไม่ได้จำเป็นต้องหมายความว่าจะไม่มี เพศ ข้ออ้างอิงหลายครั้งว่า ทูตสวรรค์เป็นเพศชายขัดแย้งกับความคิดที่ว่าทูตสวรรค์ไม่มีเพศ แต่เราต้องไม่สับสนการมีเพศกับเรื่องมีเพศสัมพันธ์ เห็นได้ชัดว่าไม่มี กิจกรรมทางเพศในสวรรค์ ซึ่งเราได้รับสืบทอดมาจาก คำกล่าวที่ว่าไม่มีการแต่งงาน แต่เราไม่สามารถก้าวข้ามแบบเดียวกันจาก "ไม่มีการแต่งงาน" กับ "ไม่มีเพศ "
แล้ว เรื่องเพศก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเข้าใจถ่องแท้ในแง่ของเพศสัมพันธ์ ถ้าจะพูดให้ถูก การใช้สรรพนามเพศชายตลอดพระคัมภีร์ เป็นการอ้างอิงถึงผู้มีอำนาจมากกว่าที่จะเป็นเรื่องเพศ
พระเจ้ามักกล่าวถึงพระองค์เองในรูปแบบเพศชาย ความไม่ชัดเจนเรื่องความแตกต่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงสามารถนำไปสู่ลัทธินอกรีต เช่น "พระแม่เจ้า / พระบิดาเจ้า" และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็น " มัน" โดยไม่สนใจการอ้างอิงถึงพระองค์ในพระคัมภีร์ ยอห์น 14:17 “เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงประทานธรรมบัญญัตินั้นทางโมเสส ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์”
ยอห์น 15:16 “ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกข้าพระองค์ แต่ข้าพระองค์ได้เลือกท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายไว้ให้ท่านไปเกิดผล และเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของข้าพระองค์ พระองค์จะได้ประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน”
ยอห์น 16:8, 13-14 “เมื่อพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความผิด ความชอบธรรม และการพิพากษา เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงจะเสด็จมาแล้ว พระองค์จะนำท่านทั้งหลายไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ แต่พระองค์จะตรัสสิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน และพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์ได้รับเกียรติ เพราะว่าพระองค์จะทรงเอาสิ่งที่เป็นของข้าพระองค์มาสำแดงแก่ท่านทั้งหลาย”
พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เคยถูกบรรยายว่าเป็น "มัน" หรือพลังไม่มีชีวิต แผนการที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้าสำหรับระเบียบและโครงสร้างของผู้มีอำนาจ ทั้งในโบสถ์และ ที่บ้าน ซึมซับคนให้ใช้อำนาจในการปกครองด้วยความรักและความชอบธรรม เช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงปกครอง
มันก็จะไม่เหมาะที่จะอ้างถึง มนุษย์ในสวรรค์เป็นอะไรอื่นที่ไม่ใช่เพศชาย เพราะสิทธิอำนาจที่พระเจ้าได้ทรงประทานแก่พวกเขาในการ ใช้อำนาจ ของพระองค์ นำข่าวประเสริฐของพระองค์ออกไป และเป็นตัวแทนของพระองค์บนแผ่นดินโลก 2 พงศ์กษัตริย์ 19:35 “และอยู่มาในคืนนั้นทูตของพระเจ้าได้ออกไป และได้ประหารคนในค่ายแห่งคนอัสซีเรียเสีย หนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคน และเมื่อคนลุกขึ้นในเวลาเช้ามืด ดูเถิด พวกเหล่านี้เป็นศพทั้งนั้น” ลูกา 2:10-11 “ฝ่ายทูตองค์นั้นกล่าวแก่เขาว่า “อย่ากลัวเลย เพราะข้าพระองค์นำข่าวดีมายังท่านทั้งหลาย คือความปรีดียิ่งซึ่งจะมาถึงคนทั้งปวง เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสต์เจ้ามาบังเกิดที่เมืองดาวิด”
English
ทูตสวรรค์เป็นชายหรือหญิง?