คำถาม
ลัทธิคาลวินคืออะไรและมันเป็นไปตามพระคัมภีร์ไหม อะไรคือประเด็น 5 ข้อของลัทธิคาลวิน ?
คำตอบ
ประเด็น 5 ข้อของลัทธิคาลวินสามารถสรุปโดยอักษรย่อ TULIP T หมายถึงภาวะเสื่อมทรามทั้งสิ้น U หมายถึงการเลือกที่ไม่มีเงื่อนไข L หมายถึงการชดใช้บาป I หมายถึงพระคุณที่ไม่อาจต้านทานได้ และ P หมายถึงความมานะบากบั่นของธรรมิกชน นี่คือคำจำกัดความและข้อคัมภีร์อ้างอิงที่ผู้เชื่อลัทธิคาลวินใช้ในการปกป้องความเชื่อของพวกเขา
ภาวะเสื่อมทรามทั้งสิ้น- เนื่องจากผลของการล้มลงในบาปของอดัม มนุษยชาติทั้งหมดได้รับผลกระทบ มนุษยชาติทั้งหมดตายในการล่วงละเมิดและความบาป คนเราไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองให้รอดได้
ปฐมกาล 6:5 “พระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน และทรงเห็นว่าเค้าความคิดในใจของเขาล้วนเป็นเรื่อง ร้ายเสมอไป”
เยเรมีย์ 17:9 “จิตใจก็เป็นตัวล่อลวงเหนือกว่าสิ่งใดทั้งหมด มันเสื่อมทรามอย่างร้ายทีเดียว ผู้ใดจะรู้จักใจนั้นเล่า”
โรม 3:10-18 “ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า เขาทุกคนหลงผิดไปหมด เขาทั้งปวงเลวทรามเหมือนกันสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่กระทำดี ไม่มีเลย ลำคอของเขาคือหลุมฝังศพที่เปิดอยู่ เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง พิษงูร้ายอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา ปากของเขาเต็มไปด้วยคำแช่งด่าและคำเผ็ดร้อน เท้าของเขาว่องไวในการทำให้นองเลือด ในทางเดินของเขามีความพินาศและความทุกข์ และเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข เขาไม่เคยคิดที่จะยำเกรงพระเจ้าเลย
การเลือกที่ไม่มีเงื่อนไข – เพราะคนเราตายเพราะความบาป เขาไม่สามารถที่จะเริ่มต้นตอบสนองต่อพระเจ้า เพราธฉะนั้นในนิรันดร์กาล พระเจ้าได้ทรงเลือกบางคนให้รับความรอด การเลือกและการกำหนดล่วงหน้านั้นไม่มีเงื่อนไข; สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของมนุษย์ เพราะมนุษย์ไม่สามารถที่จะตอบสนอง และเขาก็ไม่ต้องการด้วย
โรม 8:29-30 “เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พระองค์ได้ทรงทราบอยู่แล้ว ผู้นั้นพระองค์ได้ทรงตั้งไว้ให้เป็นตามลักษณะพระฉาย แห่งพระบุตรของพระองค์ เพื่อพระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพวกพี่น้องเป็นอันมาก และบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงตั้งไว้นั้น พระองค์ได้ทรงเรียกมาด้วย และผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกมานั้น พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม และผู้ที่พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ก็ทรงโปรดให้มีศักดิ์ศรีด้วย”
โรม 9:11 “แม้ก่อนบุตรนั้นบังเกิดมา และยังไม่ได้กระทำดีหรือชั่ว เพื่อพระดำริของพระเจ้าในการทรงเลือกนั้นจะตั้งมั่นคงอยู่ ไม่ใช่ตามการประพฤติ แต่ตามซึ่งพระองค์ทรงเรียก”
เอเฟซัส 1:4-6, 11-12 “ในพระเยซูคริสต์นั้น พระองค์ได้ทรงเลือกเราไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะทรงเริ่มสร้างโลก เพื่อเราจะบริสุทธิ์และปราศจากตำหนิในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงกำหนดเราไว้ด้วยความรักก่อนตามที่ชอบพระทัยพระองค์ ให้เป็นบุตรโดยพระเยซูคริสต์ เพื่อจะให้เป็นที่สรรเสริญพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นที่รักของพระองค์ ในพระองค์นั้น ตามพระดำริของพระองค์ผู้ทรงกระทำทุกสิ่ง ตามที่ได้ทรงตริตรองไว้สมกับพระทัยของพระองค์ เราทั้งหลายผู้ได้หวังใจในพระคริสต์ก่อน ได้รับกำหนดและรับการแต่งตั้งให้ เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์”
การชำระบาปโดยมีขีดจำกัด – เพราะพระเจ้าทรงเลือกว่าคนใดบ้างจะได้รับความรอด เป็นผลมาจากการเลือกที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า พระองค์ทรงกำหนดว่าพระเยซูคริสต์ควรจะสิ้นพระชนม์เพื่อผู้ที่ทรงเลือกเท่านั้น คนทั้งหมดซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือก และสำหรับผู้ที่พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์แทนก็จะรอดได้
มัทธิว 1:21 “เธอจะประสูติบุตรชาย แล้วเจ้าจงเรียกนามท่านว่า เยซู เพราะว่าท่านเป็นผู้ที่จะโปรดช่วยชนชาติของท่านให้รอดจากความผิดบาปของเขา”
ยอห์น 10:11 “เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ”
ยอห์น 17:9 “ข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อเขา ข้าพระองค์มิได้อธิษฐานเพื่อโลก แต่เพื่อคนเหล่านั้นที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ เพราะว่าเขาเป็นของพระองค์”
กิจการ 20:28 “ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้ปกครองคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง”
โรม 8:32 “พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลาย ด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ”
เอเฟซัส 5:25 “ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร”
พระคุณที่ไม่อาจต้านทานได้ –บรรดาผู้ที่พระเจ้าได้ทรงเลือก ทรงนำพวกเขาไปยังพระองค์โดยพระคุณที่ไม่อาจต้านทานได้ พระเจ้าทรงทำให้คนเต็มใจที่จะมาหาพระองค์ เมื่อพระเจ้าทรงเรียก คนนั้นก็ตอบสนอง
ยอห์น 6:37, 44 “สารพัดที่พระบิดาทรงประทานแก่เรา จะมาสู่เรา และผู้ที่มาหาเรา เราก็จะไม่ทิ้งเขาเลย ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา จะทรงชักนำให้เขามาและเราจะให้ผู้นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย”
ยอห์น 10:16 “แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว”
ความมานะบากบั่นของธรรมิกชน – ผู้เป็นที่รักที่พระเจ้าได้ทรงเลือกและนำมาถึงพระองค์ โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะมานะบากบั่นในความเชื่อ ไม่มีผู้ใดที่พระเจ้าทรงเลือกไว้จะสูญหายไป พวกเขาจะปลอดภัยชั่วนิรันดร์
ยอห์น 10:27-29 “แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา และเรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้นตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น แกะนั้นจะไม่พินาศเลย และจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นให้แก่เราเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง และไม่มีผู้ใดอาจชิงแกะนั้นไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาของเราได้”
โรม 8:29-30 “เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พระองค์ได้ทรงทราบอยู่แล้ว ผู้นั้นพระองค์ได้ทรงตั้งไว้ให้เป็นตามลักษณะพระฉาย แห่งพระบุตรของพระองค์ เพื่อพระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพวกพี่น้องเป็นอันมาก และบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงตั้งไว้นั้น พระองค์ได้ทรงเรียกมาด้วย และผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกมานั้น พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม และผู้ที่พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ก็ทรงโปรดให้มีศักดิ์ศรีด้วย”
เอเฟซัส 1:3-14 “สาธุการแด่พระเจ้าพระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ผู้ทรงโปรดประทานพระพรฝ่ายวิญญาณแก่เรานานาประการ ในสวรรคสถานโดยพระคริสต์ ในพระเยซูคริสต์นั้น พระองค์ได้ทรงเลือกเราไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะทรงเริ่มสร้างโลก เพื่อเราจะบริสุทธิ์และปราศจากตำหนิในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงกำหนดเราไว้ด้วยความรักก่อนตามที่ชอบพระทัยพระองค์ ให้เป็นบุตรโดยพระเยซูคริสต์ เพื่อจะให้เป็นที่สรรเสริญพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นที่รักของพระองค์ ในพระเยซูนั้น เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาป ของเราโดยพระกรุณาอันอุดมของพระองค์ ซึ่งได้ทรงประทานแก่เราอย่างเหลือล้น ให้มีปัญญาสุขุมและมีความเข้าใจ พระเจ้าได้ทรงโปรดให้เรารู้ความล้ำลึกในพระทัยของพระองค์ ตามพระเจตนารมณ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงดำริไว้ในพระคริสต์ ประสงค์ว่า เมื่อเวลากำหนดครบบริบูรณ์แล้ว พระองค์จะทรงรวบรวมทุกสิ่ง ทั้งที่อยู่ในสวรรค์ และในแผ่นดินโลกไว้ในพระคริสต์ ในพระองค์นั้น ตามพระดำริของพระองค์ผู้ทรงกระทำทุกสิ่ง ตามที่ได้ทรงตริตรองไว้สมกับพระทัยของพระองค์ เราทั้งหลายผู้ได้หวังใจในพระคริสต์ก่อน ได้รับกำหนดและรับการแต่งตั้งให้เป็นที่ ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์ ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ฟังสัจวาทะ คือข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของท่าน และได้วางใจในพระองค์ ได้รับการผนึกตราไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา เป็นมัดจำของการรับมรดกของเรา จนกว่าเราจะได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์”
ในขณะที่คำสอนเหล่านี้ทั้งหมดมีพื้นฐานทางพระคัมภีร์ หลายคนปฏิเสธคำสอนเหล่านี้ทั้งหมดหรือบางส่วน "ผู้นิยมประเด็น 4 ข้อของลัทธิคาลวิน " ที่รู้จักแพร่หลาย ยอมรับภาวะเสื่อมทรามทั้งสิ้น การเลือกที่ไม่มีเงื่อนไข พระคุณที่ไม่อาจต้านทานได้ และความมานะบากบั่นของธรรมิกชน ว่าเป็นหลักคำสอนตามพระคัมภีร์ แน่นอนคนเราทำบาปและไม่สามารถเชื่อพระเจ้าด้วยตัวเขาเอง พระเจ้าทรงเลือกผู้คนตามน้ำพระทัยของพระองค์เท่านั้น - การเลือกสรรไม่ได้ขึ้นกับการทำบุญใด ๆ ในบุคคลที่ได้ทรงเลือกมา ทั้งหมดผู้ที่พระเจ้าได้ทรงเลือก จะมาถึงความเชื่อศรัทธา ทุกคนที่เกิดใหม่อีกครั้งอย่างแท้จริงจะบากบั่นอุตสาหะในความเชื่อของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สำหรับการชดใช้บาปที่มีขีดจำกัด ผู้นิยม 4 ข้อของลัทธิคาลวิน เชื่อว่าการชดใช้บาปที่ไม่มีขีดจำกัด โต้แย้งว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของคนทั้งโลก ไม่เพียงแต่เพื่อความผิดบาปของผู้ที่ได้ทรงเลือก
1 ยอห์น 2:2 “และพระองค์ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลาย เพราะบาปของเรา และไม่ใช่แต่บาปของเราพวกเดียว แต่ของมนุษย์ทั้งปวงในโลกด้วย”
ข้อพระคัมภีร์อื่น ๆ ที่ตรงข้ามกับการชดใช้บาปที่มีขีดจำกัด ได้แก่:
ยอห์น 1:29 “วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาทางท่าน ท่านจึงกล่าวว่า “จงดูพระเมษโปดก ของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย”
ยอห์น 3:16 “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
1 ทิโมธี 2:6 “ผู้ทรงประทานพระองค์เองเป็นค่าไถ่สำหรับคนทั้งปวง เหตุการณ์นี้เป็นพยานในเวลาอันเหมาะ”
2 เปโตร 2:1 “แต่ว่าได้มีคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะเกิดขึ้นในชนชาตินั้น เช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนผิดเกิดขึ้นในพวกท่านทั้งหลาย ซึ่งจะลอบเอามิจฉาลัทธิอันจะให้ถึงความพินาศเข้ามาเสี้ยมสอน จนถึงกับปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ได้ทรงไถ่เขาไว้ ซึ่งจะทำให้เขาพินาศโดยเร็วพลัน”
อย่างไรก็ตาม ผู้นิยม 5 ข้อของลัทธิคาลวิน เห็นปัญหากับประเด็น 4 ข้อของลัทธิคาลวิน ข้อแรก พวกเขาถกเถียงกัน ถ้าภาวะเสื่อมทรามทั้งสิ้นเป็นจริง แล้วการชดใช้บาปที่ไม่ มีขีดจำกัดไม่อาจจะเป็นจริงได้ เพราะถ้าพระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของทุกคนแล้วไม่ว่าการตายของพระองค์นำมาใช้กับแต่ละบุคคลได้หรือไม่ ขี้นอยู่กับคนนั้น "ยอมรับ" พระคริสต์หรือไม่ แต่ ดังที่เราได้เห็นจากคำอธิบายข้างต้นเรื่องภาวะเสื่อมทรามทั้งสิ้น คนเราในสภาพธรรมชาติของเขาไม่มีความสามารถใด ๆ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ที่จะเลือกพระเจ้า หรือไม่ต้องการจะเลือก นอกจากนี้ หากการชดใช้บาปที่ไม่มีขีดจำกัดเป็นจริง แล้วนรกก็เต็มไปด้วยผู้คนที่พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์แทนพวกเขา
พระองค์ทรงหลั่งพระโลหิตเพื่อพวกเขาก็ไร้ประโยชน์ สำหรับ 5 ข้อของลัทธิคาลวิน นี่ก็ไม่สามารถจินตนาการได้ โปรดสังเกต: บทความนี้เป็นเพียงบทสรุปโดยย่อของประเด็น 5 ข้อของลัทธิคาลวิน
English
ลัทธิคาลวินคืออะไรและมันเป็นไปตามพระคัมภีร์ไหม อะไรคือประเด็น 5 ข้อของลัทธิคาลวิน ?