คำถาม
เรามีทูตสวรรค์ผู้คุ้มครองหรือ?
คำตอบ
มัทธิว 18:10 กล่าวว่า " จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นผู้เล็กน้อยเหล่านี้สักคนหนึ่ง ด้วยเรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า ทูตสวรรค์ประจำของเขาเฝ้าอยู่เสมอต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ " ในบริบท " ผู้เล็กน้อยเหล่านี้ "อาจจะใช้หมายถึงเหล่าคนที่เชื่อในพระองค์ (ข้อ 6) หรืออาจหมายถึงเด็กเล็กๆ (ข้อ 3-5) นี่คือใจความสำคัญเกี่ยวกับทูตสวรรค์ผู้คุ้มครอง ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าทูตสวรรค์ที่ดี ได้ช่วยคุ้มครอง เปิดเผยข้อมูล ให้คำแนะนำ จัดเตรียมและสั่งสอนผู้เชื่อโดยทั่วไป ดาเนียล 6:20-23 “เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ถ้ำที่ดาเนียลอยู่ พระองค์ก็ตรัสเรียกดาเนียลด้วยเสียงโทมนัสว่า “โอ ดาเนียลผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ พระเจ้าของท่านซึ่งท่านปรนนิบัติอยู่เนืองนิตย์นั้นทรง สามารถที่จะช่วยกู้ท่านจากสิงห์ได้แล้วหรือ” แล้วดาเนียลกราบทูลพระราชาว่า “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ พระเจ้าของข้าพระบาททรงใช้ ทูตสวรรค์ของพระองค์มาปิดปากสิงห์ไว้ มันมิได้ทำอันตรายแก่ข้าพระบาท เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า ข้าพระบาทไร้ความผิดต่อพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่พระราชา ข้าพระบาทมิได้กระทำผิดประการใดต่อ พระพักตร์ฝ่าพระบาทด้วย” ฝ่ายพระราชาก็โสมนัสในพระทัยเป็นล้นพ้น และทรงบัญชาให้นำดาเนียลออกมาจากถ้ำ เขาจึงเอาดาเนียลออกจากถ้ำ ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายอย่างไรบนตัวท่านเลย เพราะท่านได้วางใจในพระเจ้าของท่าน”
2 พงศ์กษัตริย์ 6:13-17 “พระองค์จึงตรัสว่า “จงไปหาดูว่า เขาอยู่ที่ไหน เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา” มีคนทูลพระองค์ว่า “ดูเถิด เขาอยู่ในโดธาน” พระองค์จึงทรงส่งม้า รถรบ และกองทัพใหญ่ เขาไปกันในกลางคืนและล้อมเมืองนั้นไว้ เมื่อคนใช้ของคนแห่งพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่ และออกไป ดูเถิด กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า “อนิจจา นายของข้าพเจ้า เราจะทำอย่างไรดี” ท่านตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
แล้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเบิกตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น” และพระเจ้าทรงเบิกตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็ได้เห็นและดูเถิด ที่ภูเขาก็เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลีชา”
กิจการ 7:52-53 “มีใครบ้างในพวกผู้เผยพระวจนะซึ่งบรรพบุรุษของท่านมิได้ข่มเหง และเขาได้ฆ่าบรรดาคนที่พยากรณ์ถึงการเสด็จขององค์ผู้ชอบธรรม บัดนี้ท่านทั้งหลายได้อายัดพระองค์ไว้และฆ่าเสีย คือท่านทั้งหลายผู้ที่ได้รับธรรมบัญญัติจากเหล่าทูตสวรรค์ แต่หาได้ประพฤติตามธรรมบัญญัตินั้นไม่” ลูกา 1:11-20 “ทูตองค์หนึ่งของพระเจ้า มาปรากฏแก่เศคาริยาห์ยืนอยู่ที่ข้างขวาแท่นเผาเครื่องหอมบูชา เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็ตกใจกลัว แต่ทูตองค์นั้นกล่าวแก่ท่านว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย ด้วยได้ทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว นางเอลีซาเบธ ภรรยาของท่านจะมีบุตรเป็นผู้ชาย และท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่ายอห์น ท่านจะมีความปรีดาและยินดี และคนเป็นอันมากจะเปรมปรีดิ์ที่บุตรนั้นบังเกิดมา เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่จำเพาะพระเจ้า เขาจะไม่กินน้ำองุ่นหมักและเหล้าเลย และจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา เขาจะนำพงศ์พันธุ์อิสราเอล หลายคนให้หันกลับมาหาพระเจ้าของเขาทั้งหลาย เขาจะนำหน้าพระองค์โดยน้ำใจและ ฤทธิ์เดชของเอลียาห์ ให้พ่อกลับคืนดีกับลูก และคนดื้อด้านให้กลับได้ปัญญาของคนชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้ให้สมแก่พระเจ้า” เศคาริยาห์จึงทูลทูตสวรรค์ว่า “ข้าพเจ้าจะรู้แน่ได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าก็ชราและภรรยาก็อายุมากแล้ว” ฝ่ายทูตสวรรค์นั้นจึงตอบว่า “เราคือกาเบรียลซึ่งยืนคอยรับใช้อยู่หน้าพระพักตร์พระเจ้า และทรงใช้ให้มาพูดกับท่านและนำข่าวดีนี้มาแจ้ง
นี่แน่ะ เพราะท่านมิได้เชื่อถ้อยคำของเราถึงเรื่องที่จะบังเกิดขึ้นตามกำหนด ท่านก็จะเป็นใบ้ไปจนถึงวันที่การณ์เหล่านี้จะสำเร็จ”
มัทธิว 1:20-21 “แต่เมื่อโยเซฟยังคิดในเรื่องนี้อยู่ ก็มีทูตองค์หนึ่งของพระเป็นเจ้า มาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันว่า “โยเซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของเจ้าเลย เพราะว่าผู้ซึ่งปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ เธอจะประสูติบุตรชาย แล้วเจ้าจงเรียกนามท่านว่า เยซู เพราะว่าท่านเป็นผู้ที่จะโปรดช่วยชนชาติของท่านให้รอดจากความผิดบาปของเขา” กิจการ 8:26 “ แต่ทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้สั่งฟีลิปว่า “จงลุกขึ้น ไปยังทิศใต้ตามทางที่ลงไปจากกรุงเยรูซาเล็มถึงเมืองกาซา” (ซึ่งเป็นทางเปล่าเปลี่ยว)
ปฐมกาล 21:17-20 “พระเจ้าทรงสดับเสียงร้องของเด็กนั้น และทูตของพระเจ้าจึงเรียกฮาการ์จากฟ้า กล่าวกับนางว่า “ฮาการ์ เจ้าเป็นอะไรไป อย่ากลัวเลยเพราะว่าพระเจ้าทรงสดับเสียงของเด็ก ณ ที่ที่เขาอยู่นั้นแล้ว ลุกขึ้นอุ้มเด็กนั้น เอามือจับเขาไว้ให้แน่น เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชาติใหญ่ชาติหนึ่ง” แล้วพระเจ้าทรงเบิกตาของนาง นางก็เห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงไปเติมน้ำเต็มถุงหนัง และให้เด็กนั้นดื่ม พระเจ้าทรงสถิตกับเด็กนั้น เขาเติบโตขึ้น อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และเป็น
นักธนู” 1พงศ์กษัตริย์ 19:5-7 “และท่านก็นอนลงหลับอยู่ใต้ต้นซาก ดูเถิด มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาถูกต้องท่าน และพูดกับท่านว่า “ลุกขึ้นรับประทานซี” และท่านก็มองดู ดูเถิด ตรงที่ศีรษะของท่านมีขนมปังที่ปิ้งบนก้อนหินร้อนและ มีไหน้ำลูกหนึ่ง ท่านก็รับประทานและดื่มและนอนลงอีก
และทูตของพระเจ้าก็มาอีกเป็นครั้งที่สอง ถูกต้องท่านแล้วว่า “ลุกขึ้นรับประทานซี มิฉะนั้นทางเดินนั้นจะเกินกำลังของท่าน”
ฮีบรู1:14 “ทูตสวรรค์ทั้งปวง เป็นแต่เพียงวิญญาณผู้ปรนนิบัติ ที่พระองค์ทรงส่งไปช่วยเหลือบรรดาผู้ที่จะได้รับความรอดกระนั้นมิใช่หรือ”
คำถามคือว่าแต่ละคน—ผู้เชื่อแต่ละคน- มีทูตสวรรค์ได้รับมอบหมายมาดูแลเขา / เธอหรือไม่
ในพันธสัญญาเดิม ประเทศอิสราเอลนั้นมีหัวหน้าทูตสวรรค์ มิคาเอล) ที่ได้รับมอบหมายดูแล
(ดาเนียล 10:21; 12:1) แต่ไม่มีตรงไหนในพระคัมภีร์กล่าวว่าทูตสวรรค์ได้รับมอบหมายดูแลแต่ละคน (ทูตสวรรค์บางครั้งถูกส่งไปยังแต่ละคน แต่ไม่มีการเอ่ยถึงว่าเป็นการมอบหมายดูแลถาวร)
ดาเนียล 10:21 “แต่ข้าพเจ้าจะบอกท่านตามสิ่งซึ่งบันทึกไว้ใน หนังสือแห่งสัจจะ ไม่มีผู้ใดร่วมแรงกับข้าพเจ้าต่อสู้เจ้าเหล่านี้เลย นอกจากมีคาเอลเจ้าผู้พิทักษ์ของท่าน” ดาเนียล 12:1 “ในครั้งนั้น มีคาเอลเจ้าผู้พิทักษ์ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีเวลายากลำบากอย่างไม่เคยมีมา ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัย นั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อบันทึกไว้ในหนังสือ” ชาวยิวเริ่มเชื่ออย่างเต็มที่ในทูตสวรรค์ผู้คุ้มครอง ในช่วงสมัยระหว่างพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่
ในคริสตจักรยุคแรก บรรพบุรุษเชื่อว่าแต่ละคนมีไม่เพียงมีทูตสวรรค์ที่ดีได้รับมอบหมายมาดูแลเขา / เธอ แต่ปีศาจด้วยเช่นกัน ความเชื่อในเรื่องมีทูตสวรรค์ผู้คุ้มครองดำเนินไปเป็นเวลานาน แต่ไม่มีหลักพื้นฐานพระคัมภีร์ที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ ย้อนกลับไปดูที่มัทธิว 18:10 คำว่า “ของพวกเขา” เป็นสรรพนามรวมในภาษากรีก และกล่าวถึงความจริงที่ว่าทูตสวรรค์มารับใช้ผู้เชื่อทั้งหลายเป็นธรรมดา ทูตสวรรค์เหล่านี้ถูกมองภาพว่ากำลังเข้าเฝ้าต่อพระพักตร์พระเจ้า เพื่อที่จะได้ยินพระบัญชาของพระองค์ที่มีรับสั่งให้พวกเขาช่วยผู้เชื่อในยามต้องการ ทูตสวรรค์ในพระธรรมตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้คุ้มครองคนมากเท่าที่พวกเขาหมอบเฝ้าพระบิดาในสวรรค์ หน้าที่ปฏิบัติหรือการกำกับดูแลดูเหมือนว่าจะมาจากพระเจ้ามากกว่ามาจากทูตสวรรค์ ซึ่งทำให้ได้ความหมายกว่า เพราะพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงสัพพัญญู พระองค์ทรงทอดพระเนตรดูผู้เชื่อทุกคนในทุกเวลา และพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่ทรงรู้เมื่อไรคนหนึ่งในพวกเราต้องการทูตสวรรค์เข้ามาทรงช่วย เพราะพวกทูตสวรรค์เข้าเฝ้าต่อพระพักตร์พระองค์ตลอดเวลา พวกเขาได้รับการจัดวางให้ช่วยผู้ที่เล็กน้อยกว่า
มันไม่สามารถตอบได้อย่างเด่นชัดจากพระคัมภีร์ ว่าทุกคนมีทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ได้รับมอบหมายให้ดูแลเขา / เธอหรือไม่ แต่ ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์ทำพันธกิจในเรา
มันเป็นคัมภีร์ที่จะบอกว่ากล่าวตามพระคัมภีร์ว่า พระองค์ทรงใช้พวกเขาเหมือนที่ทรงใช้เรา นั่นคือพระองค์ไม่จำเป็นต้องทรงใช้เราเพื่อบรรลุพระประสงค์ของพระองค์ แต่อย่างไรก็ตามก็ทรงเลือกที่จะใช้เราและพวกเขาด้วย โยบ 4:18 “ดูเถิด แม้ผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ก็ไม่ทรงวางพระทัย และทูตสวรรค์ของพระองค์ พระองค์ทรงกล่าวโทษที่เขาโง่” โยบ 15:15 “ดูเถิด พระเจ้ามิได้ทรงวางใจในเทพเจ้าของพระองค์ เออ ในสายพระเนตรของพระองค์ ฟ้าสวรรค์ก็ไม่สะอาด”
ในท้ายที่สุด ไม่ว่าเรามีทูตสวรรค์ที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องเราหรือไม่ เรามีพระสัญญาแน่นอนกว่าจากพระเจ้า ถ้าเราเป็นลูกๆ ของพระองค์โดยเชื่อในพระคริสต์ จะเกิดผลดีในทุกสิ่งที่ทำ และพระเยซูคริสต์จะไม่มีวันปล่อยเราหรือทอดทิ้งเรา โรม 8:28-30 “เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พระองค์ได้ทรงทราบอยู่แล้ว ผู้นั้นพระองค์ได้ทรงตั้งไว้ให้เป็นตามลักษณะพระฉาย แห่งพระบุตรของพระองค์ เพื่อพระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพวกพี่น้องเป็นอันมาก และบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงตั้งไว้นั้น พระองค์ได้ทรงเรียกมาด้วย และผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกมานั้น พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม และผู้ที่พระองค์ทรงโปรดให้เป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ก็ทรงโปรดให้มีศักดิ์ศรีด้วย” ฮีบรู13:5-6 “ท่านจงอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า เราจะไม่ละท่าน หรือทอดทิ้งท่านเลย เหตุฉะนั้นเราทั้งหลายอาจกล่าวด้วยใจเชื่อมั่นว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว มนุษย์จะทำอะไรแก่ข้าพเจ้าได้เล่า” ถ้าเรามีพระเจ้าผู้ทรงรอบรู้ทุกอย่าง มีอำนาจทุกอย่าง ผู้ทรงรักทุกคนสถิตกับเรา การมีทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์คอยปกป้องเราจะมีความหมายอะไร
English
เรามีทูตสวรรค์ผู้คุ้มครองหรือ?