คำถาม
ลัทธิไซแอนโทโลจีเกี่ยวกับศาสนาคริสต์หรือลัทธิความเชื่อ?
คำตอบ
ลัทธิไซแอนโทโลจีเป็นศาสนาที่ยากจะสรุป ลัทธิไซแอนโทโลจีได้รับความนิยมเนื่องจากดารามีชื่อเสียงฮอลลีวู้ดบางคนที่ได้ยอมรับนับถือมัน ลัทธิไซแอนโทโลจีก่อตั้งขึ้นในปี 1953 โดยนักเขียนนิยายชื่อ แอล รอน ฮั บบาร์ด แค่สี่ปีหลังจากที่เขาประกาศออกไป "ฉันต้องการที่จะเริ่มต้นศาสนา---อันเป็นที่ทำเงิน". นั่นเป็นแหล่งที่ซึ่งเขาพบความมั่งคั่ง---ฮับบาร์ดได้กลายเป็นเศรษฐี ลัทธิไซแอนโทโลจีสอนว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ (เรียกว่า เทตัน) ไม่ได้มีกำเนิดมาจากโลกใบนี้ และคนนั้นถูกยึดติดไว้โดยสสาร พลังงาน อวกาศและเวลา (เมสท์)
ความรอดสำหรับลัทธิไซแอนโทโลจีมาโดยกระบวนการที่เรียกว่า "การตรวจสอบ" ขณะที่ "การเปลี่ยนแปลงระบบประสาท " (ปกติ ความทรงจำเรื่องอดีตที่เจ็บปวด และการไร้สามัญสำนึกไประงับการเกิดพลังงานไว้) จะถูกลบออก การตรวจสอบเป็นกระบวนการที่ยาวและเสียค่าใช้จ่ายหลายแสนดอลลาร์ ในที่สุดการเปลี่ยนแปลงระบบประสาททั้งหมดจะถูกลบออก เทตันก็สามารถควบคุมเมสท์อีกครั้งแทนที่จะถูกมันควบคุม แต่ละเทตันจะมาจุติเกิดใหม่ไปเรื่อยจนกระทั่งถึงความรอด
ลัทธิไซแอนโทโลจีเป็นศาสนาที่ต้องใช้จ่ายแพงมากในการเป็นสาวก ลัทธิไซแอนโทโลจีทุกด้านเกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าบำรุงบางอย่าง นี่คือเหตุผลที่ "ม้านั่ง" ของลัทธิไซแอนโทโลจี เป็นที่คนร่ำรวยมานั่งเต็ม นอกจากนี้ยังเป็นศาสนาที่เข้มงวดมากและมีบทลงโทษหนักต่อผู้ที่จะพยายามทิ้งหลักคำสอนและสมาชิกภาพไว้ข้างหลัง "คัมภีร์" ของมันจะถูกจำกัดแต่เพียงข้อเขียนและคำสอนของแอล รอน ฮับบาร์ดเท่านั้น
แม้ว่าพวกลัทธิไซแอนโทโลจีจะอ้างว่าเข้ากันได้กับศาสนาคริสต์ พระคัมภีร์กล่าวโต้แย้งแต่ละคนและทุกความเชื่อที่พวกเขายึดมั่น พระคัมภีร์สอนว่าพระเจ้าทรงครอบครองสูงสุดและทรงเป็นผู้สร้างจักรวาล
ปฐมกาล 1:1 “ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดิน”
พระคัมภีร์สอนว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า
ปฐมกาล 1:27 “พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง”
พระคัมภีร์สอนว่าความรอดจัดไว้แก่คนโดยพระคุณผ่านความเชื่อในพระราชกิจที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำสำเร็จ
ฟีลิปปี 2:8 “และเมื่อทรงปรากฏพระองค์ในสภาพมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน”
พระคัมภีร์สอนว่าความรอดเป็นของประทานที่ให้เปล่าที่มนุษย์ไม่สามารถทำอะไรเพื่อหามาได้
เอเฟซัส 2:8-9 “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้”
พระคัมภีร์สอนว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์และดีประเสริฐ และได้ทรงประทับที่ด้านขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าพระบิดาแม้ตอนนี้ รอเวลาที่พระองค์จะทรงรวบรวมคนของพระองค์ไปอยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดรในสวรรค์
กิจการ 2:33 “เหตุฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้า และครั้นพระองค์ได้ ทรงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระบิดาตามพระสัญญา พระองค์ได้ทรงเทฤทธิ์เดชนี้ลงมา ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยิน และเห็นแล้ว”
เอเฟซัส 1:20 “ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำในพระคริสต์ เมื่อทรงชุบให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย และให้สถิตเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในสวรรคสถาน”
ฮีบรู 1:3 “พระบุตรทรงเป็นแสงสะท้อนพระสิริของพระเจ้า และทรงมีสภาวะเป็นพิมพ์เดียวกันกับพระองค์ และทรงผดุงโลกไว้ด้วยพระดำรัสอันทรงฤทธิ์ของพระองค์ เมื่อพระองค์ได้ทรงชำระบาปแล้ว ก็ได้ประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าเบื้องบน”
คนอื่น ๆ จะถูกโยนลงไปในนรกแท้จริง แยกออกจากพระเจ้าชั่วนิรันดร์
วิวรณ์ 20:15 “และถ้าผู้ใดที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิต ผู้นั้นก็ถูกทิ้งลงไปในบึงไฟ”
ลัทธิไซแอนโทโลจีปฏิเสธการดำรงอยู่ของพระเจ้าใน พระคัมภีร์ เรื่องสวรรค์และนรกอย่างไม่มีเงื่อนไข สำหรับพวกลัทธิไซแอนโทโลจี พระเยซูคริสต์เป็นเพียงครูที่ดี ที่โชคร้ายต้องตายอย่างผิดพลาด ลัทธิไซแอนโทโลจีแตกต่างจากพระคัมภีร์คริสต์ศาสนาในหลักข้อเชื่อสำคัญทุกอย่า ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดบางข้อมีรายละเอียดดังนี้
พระเจ้า: ลัทธิไซแอนโทโลจีเชื่อว่ามีเทพเจ้าหลายองค์ และว่าเทพเจ้าบางองค์อยู่เหนือกว่าองค์อื่น ๆ อีกนัยหนี่ง ศาสนาคริสต์ตามพระคัมภีร์ ยอมรับพระเจ้าองค์หนึ่งและองค์เดียว ผู้ที่เปิดเผยพระองค์แก่เราในพระคัมภีร์และโดยทางพระเยซูคริสต์ เหล่าคนที่เชื่อในพระองค์ไม่สามารถเชื่อว่าแนวคิดที่ผิดพลาดเรื่องพระเจ้าที่ลัทธิไซแอนโทโลจีสั่งสอน.
พระเยซูคริสต์: เช่นเดียวกับลัทธิอื่น ๆ ที่ลัทธิไซแอนโทโลจีปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ แทนที่จะมีมุมมองแบบพระคัมภีร์ว่าพระคริสต์ทรงเป็นผู้ใด และทรงได้ทำอะไร พวกเขากำหนดให้พระองค์ทรงมีลักษณะเป็นเทพเจ้าน้อยผู้ที่ได้รับสถานะในตำนานเล่าเรื่องมาหลายปี พระคัมภีร์สอนไว้อย่างชัดเจนว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าในสภาพมนุษย์ และโดยการจุติมาบังเกิด ทรงได้สำแดงการเสียสละเพื่อความบาปของเรา โดยผ่านความตายของพระคริสต์และการฟื้นคืนพระชนม์ ที่เราจะได้มีความหวังในชีวิตนิรันดร์กับพระเจ้า
ยอห์น 3:16 “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
ความบาป: ลัทธิไซแอนโทโลจีเชื่อมั่นในคุณงามความดีโดยธรรมชาติของมนุษย์ และสอนว่ามันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และดูถูกอย่างเต็มที่ภายใต้การที่จะบอกคนว่า เขาจะต้องกลับใจหรือว่าเขาเป็นคนชั่ว อีกนัยหนึ่ง พระคัมภีร์สอนว่าคนนั้นเป็นคนบาป และความหวังเดียวของเขาคือการที่เขาต้อนรับพระเยซูคริสต์ให้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
โรม 6:23 “ เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
ความรอด: ลัทธิไซแอนโทโลจีเชื่อมั่นในการกลับชาติมาเกิดและความรอดส่วนบุคคลในชีวิตของคน ๆ หนึ่งเป็นอิสระจากวงจรของการเกิดและการตายที่เกี่ยวข้องกับการเกิดใหม่ พวกเขาเชื่อว่าการปฏิบัติศาสนาของทุกศาสนาเป็นวิธีสากลเพื่อได้รับปัญญา ความเข้าใจและความรอด ในทางตรงกันข้าม พระคัมภีร์สอนว่ามีเพียงทางเดียวที่นำถึงความรอดและนั่นคือโดยทางพระเยซูคริสต์
ยอห์น 14:6 “พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดา ได้นอกจากจะมาทางเรา”
การเปรียบเทียบคำสอนของลัทธิไซแอนโทโลจีกับพระคัมภีร์ เราจะเห็นว่าทั้งสองถ้ามีอะไรที่อาจเหมือนกัน ก็จะมีน้อยมากทีเดียว ลัทธิไซแอนโทโลจีนำออกห่างจากทางพระเจ้าและชีวิตนิรันดร์ ลัทธิไซแอนโทโลจี ขณะบางครั้งแอบแฝงหลักความเชื่อเป็นภาษาที่ฟังดูเหมือนคริสเตียน แต่แท้จริงต่อต้านศาสนาคริสต์ในทุกแก่นความเชื่อแบบอยู่คนละมุมกันเลย เป็นที่ชัดเจนและแน่นอนที่สุดว่า ลัทธิไซแอนโทโลจีไม่ใช่เป็นแบบคริสเตียน
English
ลัทธิไซแอนโทโลจีเกี่ยวกับศาสนาคริสต์หรือลัทธิความเชื่อ?