settings icon
share icon

พระธรรมอิสยาห์

ผู้แต่ง: อิสยาห์ 1: 1 ระบุว่าผู้เขียนพระธรรมอิสยาห์คือศาสดาพยากรณ์อิสยาห์

อิสยาห์ 1:1 “นิมิตของอิสยาห์บุตรชายของอามอส ซึ่งท่านได้เห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ พระราชาแห่งยูดาห์”

วันที่เขียน: พระธรรมอิสยาห์ถูกเขียนขึ้นระหว่างปี ก.ค.ศ. 701 และ 681

จุดประสงค์ของการเขียน: ศาสดาพยากรณ์อิสยาห์ถูกเรียกไปพยากรณ์ให้แก่ราช อาณาจักรยูดาห์ ยูดาห์กำลังจะก้าวผ่านเวลาแห่งการฟื้นฟูและเวลาแห่งการก่อจลาจล ยูดาห์ถูกอัสซีเรียและอียิปต์คุกคามทำลายล้าง แต่รอดมาได้เพราะพระเมตตาของพระเจ้า อิสยาห์ประกาศข่าวให้คนกลับใจจากบาป และมีความคาดหวังในการปลดปล่อยจากพระเจ้าในอนาคต

ข้อพระคัมภีร์ที่สำคัญ:
อิสยาห์ 6:8 “และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไปและผู้ใดจะไปแทนเรา” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า ‘ข้าพระองค์อยู่นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด’”

อิสยาห์ 7:14 “เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานหมายสำคัญเอง ดูเถิด หญิงสาว คนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า อิมมานูเอล”

อิสยาห์ 9:6 “ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า ‘ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช’”

อิสยาห์ 14:12-13 “โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า 'ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ที่อุดรไกล”

อิสยาห์ 53:5-6 “แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้นตกแก่ท่าน ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี”

อิสยาห์ 65:25 “สุนัขป่าและลูกแกะจะหากินอยู่ด้วยกัน สิงห์จะกินฟางเหมือนวัว และผงคลีจะเป็นอาหารของงู มันทั้งหลายจะไม่ทำอันตรายหรือทำลายทั่วภูเขาบริสุทธิ์ของเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้”

บทสรุปโดยย่อ: พระธรรมอิสยาห์เปิดเผยเรื่องการพิพากษาของพระเจ้าและความรอด พระเจ้าทรง "บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์" และดังนั้นพระองค์จึงไม่ทรงยอมให้ความบาปผ่านไปโดยไม่ต้องรับโทษ

อิสยาห์ 6:3 “ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าจอมโยธา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์”

อิสยาห์ 1:2 “ฟ้าสวรรค์เอ๋ยจงฟัง แผ่นดินโลกเอ๋ยจงเงี่ยหู เพราะพระเจ้าได้ตรัสว่า “เราได้เลี้ยงดูบุตรและให้เติบโตขึ้น แต่เขาทั้งหลายได้กบฏต่อเรา”

อิสยาห์ 2:11-20 “และท่าอันผยองของมนุษย์จะตกต่ำลง และความจองหองของคนจะถูกปราบลง พระเจ้าองค์เดียวจะเป็นผู้เทิดทูนในวันนั้น เพราะว่าพระเจ้าจอมโยธาทรงมีวันหนึ่งที่สู้สารพัดที่เย่อหยิ่งและสูงส่ง ที่สู้สารพัดที่ถูกยกขึ้นและสูง ที่สู้ต้นสนสีดาร์ทั้งสิ้นของเลบานอน ที่สูงและที่ถูกยกขึ้น และที่สู้ต้นก่อทั้งสิ้นของบาชานที่สู้ภูเขาสูงทั้งสิ้น และที่สู้เนินเขาทั้งปวงที่ถูกยกขึ้นที่สู้หอคอยสูงทุกแห่ง ที่สู้กำแพงที่เข้มแข็งทุกแห่ง .ที่สู้กำปั่นทั้งสิ้นของทารชิช และที่สู้เรืองดงามทั้งสิ้น และความผยองของมนุษย์จะต้องถูกปราบลง และความจองหองของคนจะตกต่ำลง ในวันนั้นพระเจ้าองค์เดียวจะเป็นที่เทิดทูน และรูปเคารพจะสูญสิ้นไปทีเดียว และคนจะเข้าไปในถ้ำ และในโพรงดิน ให้พ้นจากความน่าเกรงขามของพระเจ้า และจากพระสิริแห่งความโอ่อ่าตระการของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นกระทำให้โลกสั่นสะท้าน ในวันนั้นคนจะเหวี่ยงรูปเคารพของตนออกไปอันทำด้วยเงิน และรูปเคารพของตนที่ทำด้วยทองคำ ซึ่งเขาทำไว้เพื่อตนเองจะนมัสการ ไปยังตัวตุ่นและตัวค้างคาว

อิสยาห์ 5:30 “ในวันนั้นเขาทั้งหลายจะคำรนเหนือเหยื่อนั้น เหมือนเสียงคะนองของทะเล และถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดมองที่แผ่นดิน ดูเถิด ความมืดและความทุกข์ใจและสว่างก็ถูกเมฆของแผ่นดินบดบังเสีย”

อิสยาห์ 34:1-2 “โอ บรรดาประชาชาติเอ๋ย จงเข้ามาใกล้จะได้ฟัง และ โอชนชาติทั้งหลายเอ๋ยฟังซิ ขอ ให้แผ่นดินโลกและสรรพสิ่งในนั้นฟัง ทั้งพิภพและบรรดาสิ่งที่มาจากพิภพ เพราะพระเจ้าทรงเกรี้ยวกราดต่อประชาชาติทั้งสิ้น และดุเดือดต่อพลโยธาทั้งสิ้นของเขา พระองค์ทรงคาดโทษเขา และมอบเขาไว้แก่การฆ่า”

อิสยาห์ 42:25 “ฉะนั้นพระองค์จึงทรงหลั่งความโกรธจัดลงมาบนเขา และหลั่งอานุภาพของสงคราม ทำให้เขาติดเพลิงอยู่โดยรอบแต่เขาไม่เข้าใจ มันไหม้เขาแต่เขามิได้เอาใจใส่”

อิสยาห์ 1:31 “และผู้ที่แข็งแรงจะกลายเป็นใยป่าน และกิจการของเขาเป็นประกายไฟ และทั้งสองจะไหม้เสียด้วยกัน ไม่มีผู้ใดดับได้” อิสยาห์ 30:33 “เพราะที่สำหรับเผาก็จัดไว้นานแล้ว เออ เตรียมไว้สำหรับพระราชา เชิงตะกอนก็ลึกและกว้างพร้อมไฟและฟืนมากมาย คือพระปัสสาสะของพระเจ้าเหมือนธารกำมะถันมาจุดให้ลุก”

ในเวลาเดียวกัน อิสยาห์เข้าใจว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่ประกอบด้วยพระเมตตา พระคุณและความรักใคร่สงสาร

อิสยาห์ 5:25 “พระองค์จะทรงยกอาณัติสัญญาให้แก่ประชาชาติที่ห่างไกล และทรงผิวพระโอษฐ์เรียกเขามาจากที่สุดปลาย แผ่นดินโลก และนี่แน่ะเขามาอย่างเร็วและรีบเร่ง”

อิสยาห์ 11:16 “และจะมีถนนหลวงจากอัสซีเรีย สำหรับคนที่เหลืออยู่จากชนชาติของพระองค์ ดั่งที่มีอยู่สำหรับอิสราเอล ครั้งเมื่อเขาขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์”

อิสยาห์ 14:1-2 “พระเจ้าจะทรงมีเมตตาต่อยาโคบและจะ ทรงเลือกอิสราเอลอีก และจะตั้งเขาทั้งหลายไว้ในแผ่นดินของเขา คนต่างด้าวจะสมทบกับเขา และติดพันอยู่กับเชื้อสายของยาโคบ และชนชาติทั้งหลายจะรับเขาและนำเขาทั้งหลายมายังที่ของเขา และเชื้อสายของอิสราเอลจะมีกรรมสิทธิ์ ในเขาเป็นทาสชายหญิงในแผ่นดินของพระเจ้า ผู้ที่จับเขาเป็นเชลยจะถูกเขาจับเป็นเชลย และจะปกครองผู้ที่เคยบีบบังคับเขา”

อิสยาห์ 32:2 “และผู้หนึ่งจะเหมือนที่กำบังจากลม เป็นที่คุ้มให้พ้นจากพายุฝน เหมือนธารน้ำในที่แห้ง เหมือนร่มเงาศิลามหึมาในแผ่นดินที่อ่อนเปลี้ย”

อิสยาห์ 40:3 “เสียงหนึ่งร้องว่า “จงเตรียมมรรคาแห่งพระเจ้าในถิ่นทุรกันดาร จงทำทางหลวงสำหรับพระเจ้าของเราให้ตรงไปในทะเลทราย”

อิสยาห์ 41:14-16 “พระเจ้าตรัสว่า “อย่ากลัวเลยเจ้าหนอนยาโคบ เจ้าคนอิสราเอล เราจะช่วยเจ้า ผู้ไถ่ของ เจ้าคือองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ดูเถิด เราจะกระทำเจ้าให้เป็นเลื่อนนวดข้าว ใหม่ คม และมีฟัน เจ้าจะนวดและบดภูเขา และเจ้าจะทำเนินเขาให้เหมือนแกลบ เจ้าจะซัดมันและลมจะพัดมันไปเสีย และพายุจะกระจายมัน และเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้า เจ้าจะอวดอ้างในองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล”

ประเทศอิสราเอล (ทั้งยูดาห์และอิสราเอล) ตาบอดและหูหนวกต่อพระบัญชาของพระเจ้า

อิสยาห์ 6:9-10 “และพระองค์ตรัสว่า ‘ไปเถอะและกล่าวแก่ชนชาตินี้ว่า 'ฟังแล้วฟังเล่า แต่อย่าเข้าใจ ดูแล้วดูเล่า แต่อย่ามองเห็น' จงกระทำให้จิตใจของชนชาตินี้มึนงง และให้หูทั้งหลายของเขาหนัก และปิดตาของเขาทั้งหลายเสีย เกรงว่าเขาจะเห็นด้วยตาของเขา และได้ยินด้วยหูของเขา และเข้าใจด้วยจิตใจ ของเขา และหันกลับมาได้รับการรักษาให้หาย”

อิสยาห์ 42:7 “เพื่อเบิกตาคนที่ตาบอด เพื่อนำผู้ถูกจำจองออกมาจากคุก นำผู้ที่นั่งในความมืดออกมาจากเรือนจำ”

ควรจะเปรียบยูดาห์เหมือนกับไร่องุ่นและจะเป็นที่คนเหยียบย่ำ

อิสยาห์ 5:1-7 “ขอให้ข้าพเจ้าร้องเพลงถึงที่รักของข้าพเจ้า เป็นเพลงของที่รักของข้าพเจ้าเกี่ยวกับสวนองุ่นของท่าน ที่รักของข้าพเจ้ามีสวนองุ่นแปลงหนึ่ง อยู่บนเนินเขาอันอุดมยิ่ง ท่านขุดแล้วเก็บก้อนหินออกหมด และปลูกเถาองุ่นอย่างดีไว้ ท่านสร้างหอเฝ้าไว้ท่าม กลาง และสะกัดบ่อย่ำองุ่นไว้ในสวนนั้นด้วย ท่านมุ่งหวังว่ามันจะบังเกิดลูกองุ่น แต่มันบังเกิดลูกเถาเปรี้ยว บัดนี้ ชาวเยรูซาเล็มและคนยูดาห์เอ๋ย ขอตัดสินระหว่างเราและสวนองุ่นของเรา มีอะไรอีกที่จะทำได้เพื่อสวนองุ่นของเราซึ่งเรายังไม่ได้ทำให้ ก็เมื่อเรามุ่งหวังว่ามันจะบังเกิดลูกองุ่น ไฉนมันจึงเกิดลูกเถาเปรี้ยว บัดนี้เราจะบอกเจ้าทั้งหลายให้ว่าเราจะทำอะไรกับสวนองุ่นของเรา เราจะรื้อรั้วหนามของมันเสียแล้วมันก็จะถูกเผา เราจะพังกำแพงของมันลงมันก็จะถูกเหยียบย่ำลง เราจะกระทำมันให้เป็นที่ร้าง จะไม่มีใครลิดแขนงหรือพรวนดิน หนามย่อยหนามใหญ่ก็จะงอกขึ้น และเราจะบัญชาเมฆไม่ให้โปรยฝนรดมัน เพราะว่าสวนองุ่นของพระเจ้าจอมโยธา คือเชื้อวงศ์อิสราเอล และคนยูดาห์ เป็นหมู่ไม้ที่พระองค์ทรงชื่นพระทัย และพระองค์ทรงมุ่งหวังความยุติธรรม แต่ดูเถิด มีแต่การนองเลือด หวังความชอบธรรม แต่ดูเถิดเสียงร้องให้ช่วย” เพียงเพราะพระเมตตาของพระองค์และพระสัญญาของพระองค์ที่มีต่ออิสราเอล พระเจ้าจะไม่ทรงอนุญาตให้อิสราเอลหรือยูดาห์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง พระองค์จะทรงนำทั้งการฟื้นฟู การให้อภัยและการเยียวยารักษา อิสยาห์ 43:2 “เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำเราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า”

อิสยาห์ 43:16-19 “พระเจ้าผู้ทรงสร้างทางในทะเล สร้างวิถีในน้ำที่มีอานุภาพ ผู้ทรงนำรถรบและม้า กองทัพและนักรบออกมา เขาทั้งหลายนอนลงด้วยกันและลุกขึ้นไม่ได้ เขาทั้งหลายศูนย์ไปและดับเสียเหมือนไส้ตะเกียง ตรัสดังนี้ว่า “อย่าจดจำสิ่งล่วงแล้วนั้น อย่าพิเคราะห์สิ่งเก่าก่อน ดูเถิด เรากำลังกระทำสิ่งใหม่งอกขึ้นมาแล้ว เจ้าไม่เห็นหรือ เราจะทำทางในถิ่นทุร กันดารและแม่น้ำในที่แห้งแล้ง”

อิสยาห์ 52:10-12 “พระเจ้าทรงเปลือยพระกรอันบริสุทธิ์ ของพระองค์ ต่อหน้าต่อตาประชาชาติทั้งปวง และที่สุดปลายแผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะเห็น ความรอดของพระเจ้าของเรา เจ้าทั้งหลายผู้ถือเครื่องภาชนะของพระเจ้า ไปซีจงไป ออกไปจากที่โน่น อย่าแตะต้องสิ่งไม่สะอาด จงออกไปจากท่ามกลางเมือง จงชำระตัวของเจ้าให้บริสุทธิ์ เพราะเจ้าจะไม่ต้องรีบออกไปและเจ้าจะไม่ต้องหลบหนีไป เพราะพระเจ้าจะเสด็จนำหน้าเจ้า และพระเจ้าแห่งอิสราเอลจะทรงระวังหลังเจ้า”

ยิ่งกว่าพระธรรมเล่มอื่น ๆ ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมอิสยาห์มุ่งเน้นเรื่องความรอดที่จะมาโดยทางพระเมสสิยาห์ วันหนึ่งพระเมสสิยาห์จะทรงปกครองด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม

อิสยาห์ 9:7 “เพื่อการปกครองของท่านจะเพิ่มพูนยิ่งขึ้นและสันติภาพจะไม่มีที่สิ้นสุด เหนือพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ที่จะสถาปนาไว้ และเชิดชูไว้ด้วยความยุติธรรมและด้วยความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนนิรันดร์กาล ความระตือรือร้น ของพระเจ้าจอมโยธาจะกระทำการนี้”

อิสยาห์ 32:1”ดูเถิด พระราชาองค์หนึ่งจะครอบครองด้วยความชอบธรรม และเจ้านายจะครอบครองด้วยความยุติธรรม”

พระเมสสิยาห์จะทรงครองราชย์ นำความสงบสุขและความปลอดภัยมาสู่อิสราเอล

อิสยาห์ 11:6-9 “สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ และเสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ ลูกโคกับสิงห์หนุ่มจะหากินอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆจะนำมันไป แม่โคกับหมีจะกินด้วยกัน ลูกของมันก็จะนอนอยู่ด้วยกัน และสิงห์จะกินฟางเหมือนวัวผู้ และทารกกินนมจะเล่นอยู่ที่ปากรูงูเห่า และเด็กที่หย่านมจะเอามือวางบนรังของงูทับทาง สัตว์เหล่านั้นจะไม่ทำให้เจ็บหรือจะทำลาย ทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะว่าแผ่นดินโลก จะเต็มไปด้วยความรู้เรื่องของพระเจ้า ดั่งน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น อิสราเอลจะเป็นความสว่างแก่ทุกประเทศโดยทางพระเมสสิยาห์

อิสยาห์ 42:6 ““เราคือพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม เราได้ยุดเจ้าและรักษาเจ้าไว้ เราได้ให้เจ้าเป็นตัวพันธสัญญาของมนุษยชาติ เป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ”

อิสยาห์ 55:4-5 “ดูเถิด เรากระทำให้ท่านเป็นพยานต่อชนชาติทั้งหลาย เป็นหัวหน้าและเป็นผู้บัญชาการเพื่อชนชาติทั้งปวง ดูเถิด เจ้าจะร้องเรียกประชาชาติซึ่งเจ้าไม่รู้จัก และประชาชาติซึ่งไม่รู้จักเจ้าจะวิ่งมาหาเจ้า เหตุด้วยพระเจ้าของเจ้า และเพราะองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เพราะพระองค์ทรงให้เจ้าได้รับเกียรติ”

ราชอาณาจักรของพระเมสสิยาห์ในโลก (อิสยาห์บทที่ 65-66) เป็นบทที่พระธรรมอิสยาห์ทั้งหมดตั้งเป้าหมายไว้ มันเป็นช่วงที่พระเมสสิยาห์ทรงครองราชย์ ที่ความชอบธรรมของพระเจ้าจะถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่แก่โลก ดูเหมือนเป็นข้อความที่ขัดแย้งกัน พระธรรมอิสยาห์ยังทำนายพระเมสสิยาห์เป็นหนึ่งในผู้ที่จะต้องทนทุกข์ทรมาน อิสยาห์บทที่ 53 บรรยายให้เห็นชัดเจนว่าพระเมสสิยาห์ทรงทนทุกข์เพราะบาปของเรา เป็นเพราะรอยบาดแผลของพระองค์ ที่นำให้การเยียวยารักษาให้หายได้ ความชั่วช้าของเราจะถูกยกออกไปโดยผ่านความทุกข์ทรมานของพระองค์ ความขัดแย้งที่เห็นชัดเจนนี้แก้ไขลุล่วงไปโดยพระเยซูคริสต์ที่ทรงสภาพบุคคล ในการปรากฏตัวครั้งแรก พระเยซูทรงเป็นผู้รับใช้ที่ทนทุกข์ทรมานในพระธรรมอิสยาห์บทที่ 53 ในการปรากฏตัวครั้งที่สอง พระเยซูทรงมีชัยชนะและทรงครอบครองเป็นกษัตริย์ คือองค์สันติราช

อิสยาห์ 9:6 “ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า ‘ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช’”

ลางบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า: ตามที่ระบุไว้ข้างต้น อิสยาห์บทที่ 53 บรรยายการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์และความทุกข์ทรมานของพระองค์ พระองค์จะทรงอดทนเพื่อที่จะชดใช้ความผิดบาปของเรา โดยอำนาจสูงสุดของพระองค์ พระเจ้าทรงจัดการรายละเอียดของการตรึงกางเขนเพื่อให้ทุกคำพยากรณ์ของบทนี้สำเร็จ เช่นเดียวกับคำพยากรณ์เรื่องพระเมสสิยาห์ตอนอื่นๆในพันธสัญญาเดิม มโนภาพของบทที่ 53 สะเทือนอารมณ์และเป็นตามคำพยากรณ์ และมีภาพที่สมบูรณ์ของพระกิตติคุณ พระเยซูทรงถูกดูหมิ่นและทอดทิ้ง

อิสยาห์ 53:3 ”ท่านได้ถูกมนุษย์ดูหมิ่นและทอดทิ้ง เป็นคนที่รับความเจ็บปวด และคุ้นเคยกับความเจ็บไข้ และดังผู้หนึ่งซึ่งคนทนมองดูไม่ได้ ท่านถูกดูหมิ่น และเราทั้งหลายไม่ได้นับถือท่าน”

ลูกา 13:34 “โอ เยรูซาเล็มๆ ที่ได้ฆ่าบรรดาผู้เผยพระวจนะ และเอาหินขว้างผู้ที่รับใช้มาหาเจ้าให้ถึงตาย เราใคร่จะรวบรวมลูกของเจ้าไว้เนืองๆ เหมือนแม่ไก่กกลูกอยู่ใต้ปีกของมัน แต่เจ้าไม่ยอมเลยหนอ”

John ยอห์น 1:10-11 “พระองค์ทรงอยู่ในโลกซึ่งพระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาทางพระองค์ แต่โลกหาได้รู้จักพระองค์ไม่ พระองค์ได้เสด็จมายังบ้านเมืองของพระองค์ และชาวบ้านชาวเมืองของพระองค์ไม่ได้ต้อนรับพระองค์”

พระเยซูทรงถูกพระเจ้าโบยตี

อิสยาห์ 53:4”แน่ทีเดียวท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบความเจ็บปวดของเราไป กระนั้นเราทั้งหลายก็ยังถือว่าท่านถูกตี คือพระเจ้าทรงโบยตีและข่มใจ”

Matthew มัทธิว 27:46 “ครั้นประมาณบ่ายสามโมง พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า ‘เอลี เอลี ลามาสะบักธานี’ แปลว่า ‘พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย’”

พระเยซูทรงถูกแทงด้วหอกเพราะการล่วงละเมิดของเรา

อิสยาห์ 53:5 “แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้นตกแก่ท่าน ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี”

ยอห์น 19:34 “แต่ทหารคนหนึ่งเอาทวนแทงที่สีข้างของพระองค์ และโลหิตกับน้ำก็ไหลออกมาทันที”

1 เปโตร 2:24 “พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรมด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย”

โดยความทุกข์ทรมานของพระองค์ ทรงชดใช้การลงโทษที่เราสมควรได้รับและทรงกลายเป็นเครื่องบูชาที่ดีที่สุดและสมบูรณ์แบบเพื่อเรา

อิสยาห์ 53:5”แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้นตกแก่ท่าน ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี”

ฮีบรู 10:10 “และโดยน้ำพระทัยนั้นเองที่เราทั้งหลายได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์ โดยการถวายพระกายของพระเยซูคริสต์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”

แม้ว่าพระองค์ไม่ทรงมีบาป พระเจ้าทรงวางบาปของเราและเราไว้ที่พระองค์ เราจึงกลายเป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าโดยพระองค์

2โครินธ์ 5:21 “เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาปเพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์”

การประยุกต์ใช้ปฏิบัติ: พระธรรมอิสยาห์ทรงเสนอพระผู้ช่วยให้รอดของเราในรายละเอียดที่เราปฏิเสธไม่ได้ ทรงเป็นทางเดียวที่จะไปสวรรค์ ทางแห่งการได้รับพระคุณของพระเจ้า ทางเดียวเท่านั้น ความจริงเดียวเท่านั้น และเป็นชีวิตเดียวเท่านั้น

ยอห์น 14:6 “พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา” Acts กิจการ 4:12”ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย ด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้ ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า”

เมื่อเรารู้ราคาที่พระคริสต์ทรงชดใช้เพื่อแล้ว เราสามารถละเลยหรือปฏิเสธ "ความรอดอันมีค่ามาก" ได้อย่างไร

ฮีบรู 2:3 “ด้วยว่า เมื่อพระดำรัสซึ่งทูตสวรรค์ได้กล่าวไว้นั้นปรากฏเป็นความจริง และการล่วงละเมิดกับการไม่เชื่อฟังทุกอย่าง ได้รับผลตอบสนองตามความยุติธรรมแล้ว ดังนั้นถ้าเราละเลยความรอดอันยิ่งใหญ่แล้ว เราจะรอดพ้นไปอย่างไรได้ ความรอดนั้นได้เริ่มขึ้นโดยการประกาศขององค์พระผู้เป็นเจ้าเอง และบรรดาผู้ที่ได้ยินพระองค์ก็ได้ รับรองแก่เราว่าเป็นความจริง”

เรามีแวลาสั้นๆ ไม่กี่ปีบนโลกที่จะมาหาคริสต์และโอบกอดความรอดที่พระองค์เท่านั้นทรงประทานให้ ไม่มีโอกาสครั้งที่สองหลังจากการตายและนิรันดร์กาลในนรกเป็นเวลานานมาก คุณรู้จักคนที่อ้างว่าเป็นผู้เชื่อในพระคริสต์ที่มีสองหน้าซึ่งเป็นคนหน้าซื่อใจคดหรือเปล่า นั่นอาจจะเป็นบทสรุปที่ดีที่สุดที่อิสยาห์มองประเทศอิสราเอล อิสราเอลมีลักษณะของความชอบธรรม แต่มันก็เป็นซุ้ม ในพระธรรมอิสยาห์ ศาสดาพยากรณ์อิสยาห์ท้าทายให้อิสราเอลเชื่อฟังพระเจ้าหมดทั้งหัวใจของพวกเขา ไม่ใช่เป็นเพียงที่เห็นข้างนอก ความปรารถนาของอิสยาห์ก็คือว่า บรรดาผู้ที่ได้ยินและได้อ่านคำกล่าวของเขา จะตัดสินแน่วแน่ที่จะหันจากความชั่วและหันไปหาพระเจ้าเพื่อรับการให้อภัยและการเยียวยารักษา

English



การสำรวจพันธสัญญาใหม่

การสำรวจพระคัมภีร์

กลับสู่หน้าภาษาไทย

พระธรรมอิสยาห์
แบ่งปันหน้านี้: Facebook icon Twitter icon Pinterest icon Email icon
© Copyright Got Questions Ministries